Menu
1. Foreign Exchange Marketตลาดแห่งการสร้างโอกาสถ้าหากเรารู้จักมันดีพอ!
1.1 ความเสี่ยงและผลตตอบแทน 12 ข้อดีการลงทุนในตลาดForex 13 ข้อเสียการลงทุนในตลาดForex
2 Fake Forex& Real Forex รู้ข้อมูลเหล่านี้แล้วคุณจะไม่ตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ
2.1 ทำไมถึงผู้มีผู้เสียหายและโดนหลอก 22 Real Forex 23 Fake Forex
3. First Step กับตลาดForex ก้าวแรกในตลาดการเงินระดับโลก และสิ่งที่คุณควรรู้
3.1 คู่สกุลเงินในตลาดForexคู่เงินหลักคู่เงินรอง,คู่เงินเกิดใหม่
32 ประเภทบัญชี เทรด
3.3 Leverage คือ
3.4 balance ,Equity ,swap ,Buy&Sell ,margin&margincall.spread
3.5 เกรดความรู้ ที่สำคัญ
– ตลาดเปิดปิดที่โมง
– การเปิด-ปิดของธนาคารแต่ละประเทศ
4. Broker เลือกให้เป็นอยู่ให้ถูก มาทำความเข้าใจกับโมรกเกอร์กัน
4.1 หลักการเลือกใบรกเคอร์ที่ดี 42 การตรวจสอบโบรกเกอร์
5. สิ่งที่ควรรู้ก่อนลงสนามเริ่มเทรด
5.1 ควรเริ่มต้นลงทุนเท่าไหร่ดีจึงจะเหมาะสม 5.2 Indicator ที่ควรรู้
5.3 6Indicator ยอดนิยม 5.4 การบริหารเงินหน้าตักในการเทรด
1. Broker ที่เราคัดสรร
1.1 Broker LiteFinance
ㆍประวัติ
ㆍใบอณุญาตจากCysec, Cysec คืออะไร
ㆍรางวัลการันตีBroker
ㆍประเภทบัญชี classic,cent,ecn
1.2 Broker …เร็วๆนี้
2. แพลตฟรอมซื้อ-ขาย
3. วิธีการสมัคร และ ยืนยันตัวตน
4. ระบบ copytrade ที่เสถียรที่สุด
5. วิธีเลือกมาสเตอร์ที่ถูกต้องในการคัดลอกสัญญาณเทรด (Copy Trade)
6. วิธีการตั้งค่าการคัดลอกและเชื่อมบัญชีเทรดกับ MT4/MT5
7. วิธีการฝากเงิน-ถอนเงิน
Forex ( Foreign Exchange Market) คือ ตลาดที่ทำการซื้อขายอัตราแลกเปลี่ยนเงินตรา โดยราคานั้นจะแปรผันตาม demand และ supply ของแต่ละสกุลเงินระหว่างประเทศซึ่งทั้งนี้อาจจะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นอัตราดอกเบี้ย อัตราเงินเฟ้อ ราคาน้ำมัน ราคาทองคำ สภาพเศรษฐกิจ สถานการณ์บ้านเมือง เหตุการณ์ทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงการประกาศตัวเลขสำคัญ ๆ ของแต่ละประเทศ เช่น อัตราการว่างงาน เป็นต้น เรียกได้ว่า อัตราแลกเปลี่ยนเงินตรา มีความอ่อนไหวต่อปัจจัยรอบข้างค่อนข้างมาก
การลงทุนใน FOREX นั้นสามารถทำกำไรได้ทั้งช่วงขาขึ้นและขาลง โดยเปิดสถานะซื้อ (Buy) หากคาดการณ์ว่าราคาจะสูงขึ้น และเปิดสถานะขาย (Sell หากคาดว่ราคาจะลดลง เช่น หากคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจของสหรัฐอมริกาน่าจะชะลอตัวไปอีกนาน จากผลของโรคระบาด และความกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีน ส่งผลให้ดอลสำาร์สหรัฐอนค่าลงเมื่อ เทียบกับยูโร ทำให้ EUR/USD มีค่าสูงขึ้น (USD อ่อนค่าลง แปลว่าเงินนั้นถูกลง ทำให้ต้องใช้เงิน USD มากขึ้นเพื่อแลกเงิน EUR)
การซื้อขายเงินสกุลใหญ่ ๆ เช่น ดอลลาร์สหรัฐ (USD), ยูโร (EUR), ปอนด์สเตอร์ลิง (GBP), เยน (UPY) จะมีสภาพคส่องสูงมาก เนื่องจากมีผู้เล่นจำนวนมากและมีการเลี่ยนแปลงของราคาตลอดเวลา ในอดีต ผู้เล่นในตลาด Forex จะจำกัดอยู่ในกลุ่มสถาบัน การเงินใหญ่ ๆ เช่น ธนาคาร หรือบริษัทประกัน แต่ในปัจจุบัน ด้วยการเข้ามาของระบบการเทรดออนไลน์ นักลงทุนรายย่อย อย่างพวกเรา ก็สามารถเข้ามาลงทุนฝานระบบการเทรดออนไลน์ของบริษัทโบรกเกอร์ ที่ทำหน้าที่เป็นตัวกลางในการส่ง คำสั่งซื้อ/ขายไปยังตลาดซื้อขายเงินตราต่างประเทศทันทีที่ได้รับคำสั่ง
การซื้อขาย Forex จะแสดงในรูปคู่ของสกุลเงิน เช่น EUR/USD = 1.105678 หมายความว่า 1 Euro มีค่าเท่ากับ 1.105678 US Dollars การซื้อ EUR/USD จะหมายถึง การซื้อ EUR และขาย USD และในทางตรงกันข้าม การขาย EUR/USD หมายถึง การซื้อ USD และขาย EUR ตัวอย่างการซื้อขายคู่สกุลเงินที่สำคัญๆ ได้แค่ EUR/USD, USD/JPY, GBP/USD, USD/CAD, USD/CHF, AUD/USD และ NZD/USD
มาดูตัวอย่างกันครับ จากการคาดการณ์ตัวเลขอัตราการว่างงานของสหรัฐที่มีแนวโน้มลดลง ซึ่งหมายความถึงความแข็งแกร่ง ทางเศรษฐกิจที่เพิ่มขึ้น น่าจะมีผลให้ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่ขึ้นเมื่อเทียบกับยูโร หรืออีกนัยหนึ่ง EUR/USD น่าจะมีค่าลดลง ดังนั้น เราจึงตัดสินใจเปิดสถานะขาย EUR/USD ที่ราคา bid 1.10288 จำนวน 10,000 หน่วย และด้วย leverage ที่ 50:1 ทำให้ค่าใช้จ่าย ที่เกิดขึ้น คือ (1.10288 *10,000) / 50 = $220.576 (แทนที่จะต้องใช้เงิน S11,028.8) ซึ่งหากการคาดการณ์ถูกต้อง และ EUR/USD มีค่ลดลง เราสามารถปิดสถานะทันที เช่น ที่ราคา ask 1.09052 ในตัวอย่างนี้ เราสามารถทำกำไรได้ (1.10280-1.09052) *10,000 = $122.8
และด้วยลักษณะของ Forex ที่มีความเปลี่ยนแปลงของราคาอย่งรวดเร็ว มีสภาพคส่องสูง ทั้งยังสามารถใช้ leverage ทำให้ สร้างกำไรได้สูงด้วยเงินลงทุนต่ำ จึงอาจกล่าวได้ว่า การลงทุนใน Forex เหมาะกับนักลงทุนขาซิ่งที่ชอบความเสี่ยงสูง เน้นทำกำไร ในช่วงเวลาสั้น ๆ ตัดสินใจซื้อขายอย่างรวดเร็ว
*ดั้งนั้นจึงมีผู้ที่สมหวังและผิดหวัง ในตลาดนี้เป็นจำนวนมาก แต่ในปัจจุบันถือว่า ตลาดForexนั้นมีคารแข่งขันของแต่ละโบรกเกอร์
จึงมีสิ่งอำนวยความสะดวกในการทรดให้ง่ยและทำกำไรได้มากยิ่งขึ้น โดยส่วนใหญ่แล้วผู้ที่เข้ามาและออกไปจากตลาดนี้โดยเร็ว
คือจัดการความโลกของตัวเองไม่ได้ เข้ามาด้วยความโลภและออกไปด้วยความโลภ แต่ถ้าท่านรู้ตัวว่าสามารถจัดการความโลภ
ในใจคุณได้ แสดงความยินดีด้วยคุณกำชัยไปแล้วครึ่งทาง. ที่เหลือคือ ความรู้ ประสบการณ์ , และการวิเคราะห์กราฟวิเคราะห์
ข่าวของคุณ
ㆍ มีสภาพคล่องสูง เพราะมีคนซื้อและคนขายจำนวนมาก ทำให้ปริมาณการซื้อขายสูงมากเมื่อเทียบกับการลงทุนแบบอื่น เพราะเป็นตลาดการเงินที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก เปิดทำการซื้อขายตลอด 24 ชั่วโมง ยกเว้นวันเสาร์ อาทิตย์ และวันหยุด ราชการ (ในปัจจุบันเริ่มมีโบรกเกอร์ที่นำcryptoเข้ามาในกระดานเารดและ สามารถเทรดได้7วันต่อสัปดาห์)
ㆍ นักลงทุนสามารถทำกำรได้ทั้งขาขึ้และขาลง ในหนึ่งคู่สกุลเงินนักลงทุนสามารถปิดได้ทั้งสถานะซื้อ หรือขาย โดยเปิดสถานะ ซื้อหากคาดการณ์ว่าราคาจะสูงขึ้น และเปิดสถานะขายหากคาดว่ราคาจะลดลง
ㆍ ใช้เงินลงทุนต่ำ โดยใช้เงินประมาณ 1,000 บาทก็เริ่มต้นลงทุนได้
ㆍ นักลงทุน,ทรดเดอร์ หลายท่านที่ เข้ามาในตลาดนี้ต่างประสบคความสำเร็จได้โดยง่ายหากควบคุมความโลภและบริหาร เงินทุนของตัวเองได้ดี
ㆍ มีความเสี่ยงสูงมาก เนื่องจากอัตราการแลกเปลี่ยนมีความอ่อนไหวมากต่อปัจจัยรอบตัว ทำให้ราคามีความผันผวนสูง และหากคาดการณ์ผิดก็ทำให้ขาดทุนมหาศาลได้อย่างรวดเร็ว
ㆍ ยังไม่มีโบรกเกอร์ซื้อขาย FOREX ในประเทศไทย ต้องเทรดผ่านโบรกเกอร์ต่างประเทศ เพราะการลงทุนใน FOREX นั้น ยังไม่มีการรองรับอย่างถูกกฎหมายในประเทศไทย ทำให้มีโอกาสถูกหลอกได้ หากเลือกโบรกเกอร์ที่ไม่มีมาตรฐาน
ㆍ นอกจากความรู้ ที่เป็นองค์ประกอบหลักแล้ว สิ่งที่ควรมีคือ การบริหารอารมณ์ การบริหารหน้าตักและท้ายที่สุดคือประสบการณ์ ที่นักลงทุนควรมี.
ㆍ เป็นตลาดการเงินที่ใหญ่ที่สุดในโลกดังนั้นเงินหมุนเวียนสูงจึงทำให้เกิดความโลภ หากจัดการความโลภไม่ได้ส่วนใหญ่ก็จะออก จากตลาดนี้ไปจากความโลภของตัวเอง
ㆍ เนื่องจากเป็นตลาดการเงินและเป็นที่นิยมอย่างรวดเร็วจึงมีมิจฉาชีพเข้ามาเพื่อหวังผลประโยชน์จากตลาดนี้จำนวนมาก
อย่างที่รู้กันตลาดForex เข้ามาในประเทศไทยได้หลายสิบปีแล้ว ณ ปัจจุบันนั้นมีโบรกเกอร์ที่เข้ามาทำการตลาดและมีการแข่งขันกันจำนวนมาก แต่ ก็จะมี มิจฉาชีพ เกิดขึ้นมาด้วยเช่นกัน ทำให้ชื่อForexนั้นเสียหายอย่างต่อเนื่อง มีกรณีดาราคนดังหลายๆท่านก็ถูกหลอกลว วงลงทุน ด้วยเช่นกัน เพราะ มีการเอากำไรที่หวือหวา เกินความเป็นจริงเข้าหลอกส่อ แต่เนื้อในนั้น ไม่ใชforexเลยก็มี บ้างก็เป็นแชร์ลูกโซ่ และใช้คำว่าForexนังหน้า หรือมาในรูปแบบ การระดมทุนเพื่อเทรด จึงทำให้คนรู้จักForexแบบผิดๆเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น จึงควรศึกษาข้อมูลอย่างละเอียดถี่ถ้วนค่อนเข้ามาในตลาดนี้ เราจะยกตัวอย่างที่ผ่านมา
มีช่วงหนึ่งที่เกิดเหตุการณ์แย่ ๆ ขึ้นในประเทศไทยจนทำให้ Forex เกิดมุมมองไปในทางลบ เมื่อ 20 กว่าปีที่ผ่านมามีนักศึบางสุ่มที่ไปเรียนมืองนอก และได้รู้จักการเก็งกำไรในค่าของเงิน หรือ Forex เพราะในต่างประเทศจะมี Broker เปิดให้บริการอย่างเปิดเผยเพราะไผิดกฎหมาย(กฎหมายรองรับ) กลุ่มนักศึกษาดังกส่าวมื่อกลับมาเมืองไทยจึงชักชวนคนไทย ในรูปแบบระดุมทุนเพื่อนำเงินมาเทรดในตลาด Forex แต่พอเทรดไปได้ระยะหนึ่งแล้วก็เอาเงิน หลบหนี โดยที่ผู้เสียหาย(เจ้าของเงิน) ไม่สามารถติดตามทวงคืนได้ ในช่วงนั้นเองรัฐบาล จึงได้ออกกฎหมายห้ามระดุมทุน เพื่อการเก็งกำไรใน Forex !!!
ทำไมถึงผู้มีผู้เสียหายและถูกหลอกอยู่อย่างต่อเนื่อง?
1. ในตลาดยังไม่มีผู้ออกมาตีแผ่ความจริง อย่างจริงใจ 2 ถูกชักชวนจากคนสนิทและไว้ใจ (คนสนิทก็ไม่รู้เหมือนกัน) 3. มีโบรกเกอร์เถื่อนไม่มีใบอนุญาตผุดขึ้นมาอยางต่อเนื่อง 4. กำไรที่เกินความเป็นจริง เป็นเหยื่อส่อ
ของนักลงทุนมือให้ม่ 5. ขาดความเข้าใจ ไม่ได้ศึกษาก่อนลงทุนและ รู้จักกลไกของตลาดจริงๆ 6. ไม่รู้วิธีการตรวจสอบใบอณุญาตBroker
ดังนั้น ทั้งหมดที่กส่าวมาอาจไม่ใช่ปัจจัยทั้งหมด แต่ คือ1ในปัจจัยที่ทำให้ มีผู้เสียหายกับตลาดนี้แบบผิดๆอย่างต่อเนื่อง แต่เรามีวิธีการคัดกรอง โดยง่ายอยู่ในกระกู้นี้ครับ!
ㆍหน้าเว็บไซที่น่เชื่อถือ ณ ปัจจุบันมีโบรกเกอร์มากมายที่เข้ามาทำการตลาดในไทย โบรกเกอร์ที่เข้ามาแล้วจึงควรมีภาษาไทยรองรับ มีความน่าเชื่อถือและเปิดมานาน เป็นทุนเดิม
ㆍมีภาษาไทยรองรับ ทั้งหน้าเว็บไซต์ และ แอพพลิเคชั่น รวมถึงรองรับได้ทั้ง ระบบios , Android
ㆍมีใบอนุญาตระดับสากล ใบอนุญาต โบรกเกอร์ฟอเร็กซ์ ที่ได้รับความน่าเชื่อถือได้แค่ FCA , ASIC,CySec, IFSC ทั้ง 4 หน่วยงานที่กำกับดูแล ตรวจสอบ ด้าน การเงิน และการดำเนินธุรกิจ
ㆍเราสามารถตรวจสอบโบรกเกอร์ Forex รดเดอร์สามารถเข้าที่เว็บไซต์หลักของแต่ละใบอนุญาต เช่น FCA , ASIC, CySec, IFSC และกรอกชื่อ Broker เพื่อตรวจสอบได้เลย
ㆍการฝากเงินเงิน-ถอนเงิน ควรฝากเข้าฝานชื่อบริษัท ธนาคารหรือ บริษัทแลกเปลี่ยนเงิน ที่น่าเชื่อถือ ยกตัวอย่างในไทย บริษัทที่เป็นบริษัทแลกเปลี่ยนเงินตราระหว่างประเทคซึ่งเราก็จะคุ้นหน้าคุ้นตา ในระบบฝากเงินหลายๆโบรกเกอร์ Local Bank Transfer นั้นเอง
ㆍมีรางวัลการันตีคุณภาพโบรกเกอร์
ㆍสามารถตรวจสอบโบรกเกอร์ที่อยู่ภายใต้การดูแล โดยง่ายได้ที่ เว็บไซต์wikifx หรือ แอพพลิเคชั่น wikifx
ㆍบางโบรกเกอร์ไม่มีแม้แต่เว็บไซต๊ให้เข้าเยี่ยมชม , เว็บไซตไม่มีแหล่งข้อมูลที่มากพอที่เป็นประโยชน์ต่อนักลงทุน
ㆍโอนเงินเข้าบัญชีบุคคล (ควรระวังให้มาก)
ㆍเพิ่งเปิด และยังไม่มีการรองรับในหลายๆ ประเทศ
ㆍอัตราการฝากเงิน-ถอนเงิน ต่างกันมากจนเกินไป เช่นฝาก 33/1usd ถอน29/1usd
ㆍ สภาพคส่องในการถอนเงินที่ต้องใช้เวลาที่นานยกตัวอย่างเช่น ใช้เวลาในการถอนเงิน 1สัปดาห์ ขึ้นไป
ㆍ โบนัสเทรด หรือ การแสดงผลกำไรที่เกินความเป็นจริง
ㆍเงื่อนไขแปลกฯ เช่นฝากมาแล้วทำกำไรได้แล้วถ้าหากต้องการถอนต้องฝากมาเพิ่มแล้วเารดให้ได้ตามที่กำหนด
ㆍตรวจสอบง่ายๆฝานwikifx ถ้าหากอยู่ในรายชื่อไม่มีโบรกเกอร์ หรือ ขึ้นแจ้งว่า ไม่ได้อยู่ในการกำกับดูแล ให้คุณพึงระวังไว้ได้เลยครับ
สิ่งสำคัญมื่อคุณก้าวเข้ามาในตลาดนี้ไม่ว่จะเข้ามาในทิศทางของ เทรดเดอร์ หรือ นักลงทุน สิ่งที่คุณควรรู้คือพื้นฐานสำคัญทั้งหมดเพื่อที่จะสร้างภูมิคุ้มกัน ให้กับตัวคุณเอง และผมเชื่อว่า ความรู้เหล่านี้จะมีผลไประโยชน์ไม่มากก็น้อยสำหรับข้อมูลนี้ครับ
คู่สกุลเงินในตลาด Forex
คู่เงิน Forex ที่เทรดเดอร์และนักลงทุนนิยมใช้ในการเกรงกำไร ก็คือคู่เงินที่ประกอบด้วย “สกุลเงินหลักของโลก” เนื่องจากมันคือคู่สกุลเงินที่มีปริมาณการซื้อขายตลอดเวลา (สภาพคส่องสูง) เหตุผลมาจากปัจจัยพื้นฐานของเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง มีการผลิตสินค้า ในปริมาณมากๆ ทำให้มีความต้องการจากทั่วโลกในการค้าขายหนึ่งในนั้น คือ “ดอลลาร์สหรัฐ”เพราะมันเป็นสกุลเงิน
ที่ทุกประเทศต่างใช้เป็นเงินทุนสำรองระหว่างประเทศของตนนั้นเองครับ
* ทั้งหมดนี้เป็นคู่เงิน Forex ที่สภาพคส่องสูงและมีการซื้อขายมากที่สุด*
EUR/USD : คู่เงินยูโรอังกฤษ และ ดอลลาร์สหรัฐ
USD/ JPY : คู่เงินดอลลาร์สหรัฐ และ เงินเยนญี่ปุ่น
GBP/USD : คู่เงินปอนด์สหภาพยุโรป และ ดอลลาร์สหรัฐ
USD/CHF : คู่เงินดอลลาร์สหรัฐ และ รังก์ ฝรั่งเศส
USD/CAD : คู่เงินดอลลาร์สหรัฐ และ ดอลลาร์แคนาดา
ความหมายของคู่เงินหลัก คู่เงินที่เป็นการจับคู่กันระหว่างเงินสกุลดอลสำาร์สหรัฐกับกสุ่มสกุลเงินที่ถูกซื้อขายแลกเปลี่ยน กันมากและแพร่หลายที่สุด อย่างสกุลเงิน EUR (Euro zone), JPY(Japan), GBP(United Kingdom) โดยสกุลเงินหลัก ๆ ที่ทำการซื้อขายนั้นก็จะมีอยู่ 7 สกุลเงิน ดังนี้
1. (USD) ดอลลาร์สหรัฐอพริกา
2. (EUR) ยูโร
3. (GBP) ปอนด์
4. (JPY) เยน
5. (CAD) ดอลลาร์แคนา
6. (CHF) สวิสฟรังค์
7. (AUD) ดอลลาร์ออสเตรเลีย
* ดังนั้นคู่เงินเหล่านี้มีปริมาณการซื้อขายต่อวันมากมายมหาศาล มากกว่าคู่เงินอื่น ๆ จึงเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้มีนักแทรด Forex นิยมเทรดกันอย่างมากเพราะคู่เงินเหล่านี้เป็นตัวแทนของธุรกิจและการลงทุนระหว่างประเทศ และ มี volume การนารด และการวิ่งของราคาค่อนข้างสูงจึงมีผลตอบแทนที่สูงกว่าคู่เงินรองนั้นเองครับ *
คือคู่เงินที่ ไม่มีการจับคู่ สกุลเงิน บS. (ดอลลาร์สหรัฐ) และมีความผันผวนง่าย มีผลต่อสกุลเงินอื่นน้อย ถึงแม้ว่าสกุลเงินรอง จะไม่เป็นที่นิยมสักเท่าไห้ร่แต่ก็คือส่วนหนึ่งที่เราควรรู้ด้วยเช่นกันครับ เพื่อเป็นประโยชน์ต่อตัวเราเอง คู่เงินรองยกตัวอย่าง ดังต่อไปนี้
1. EUR/GBP : ค่าเงินยูโรอังกฤษ/ค่าเงินปอนด์สหภาพยุโรป
2. EUR/CHF: ค่าเงินยูโรอังกฤษ/ ค่าเงินฟรังก์ ฝรั่งเศส
3. EUR/CAD : ค่าเงินยูโรอังกฤษ/ค่าเงินดอลลาร์แคนาดา
4. GBP/JPY : ค่าเงินปอนด์สหภาพยุโรป/ค่าเงินเยนญี่ปุ่น
5. CAD/ JPY : ค่าเงินดอลลาร์แคนาดา/ ค่าเงินเยนญี่ปุ่น
6. AUD/NZD : ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลีย/ค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์
7. NZD/CAD : ค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์/ค่าเงินดอลลาร์แคนาดา
*ดังนั้นคู่เงินเหล่านี้มีปริมาณการซื้อขายต่อวันมากมายมหาศาล มากกว่าคู่เงินอื่น ๆ จึงเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้มีนักเทรด Forex นิยมเทรดกันอย่างมากเพราะคู่เงินเหล่านี้เป็นตัวแทนของธุรกิจและการลงทุนระหว่างประเทศ และ มี volume การนารด และการวิ่งของราคาค่อนข้างสูงจึงมีผลตอบแทนที่สูงกว่าคู่เงินรองนั้นเองครับ*
Balance คือ ยอดเงินในบัญชีของเรา ณ ปัจจุบัน ยอดเงินตรงนี้จะไม่มีการเปลี่ยนแปลงจนกว่าคุณจะปิดออเดอร์กำไรหรือขาดทุน ยอดเงิน Balance ของคุณถึงจะมีการเปลี่ยนแปลง ยกตัวอย่างดังต่อไปนี้ Balance ของคุณหรือเงินทุนคุณมี 1,000 เมื่อคุณปิดออเดอร์ ต่อมาออเดอร์นั้นมีผลกำไรหรือขาดทุน เชน+500S/-500$ แต่คุณยังไม่มีการปิดออเดอร์นั้น Balance ที่แสดงก็ยังคงเป็น 1,000$ เหมือนเดิม ฝานไปสักพัก คุณตัดสินใจปิดออเดอร์ปรากฏว่ากำไร ออเดอร์นั้น +500$ Balance ที่แสดงก็จะเปลี่ยนเป็น 1,500$ ทันที. แต่ถ้าหากออเดอร์ที่คุณปิดนั้นขาดทุน -500S เมื่อปิดออเดอร์แล้ว Balance ที่แสดงก็จะเปลี่ยนเป็น 500$ เช่นกัน
Equity คือ ยอดเงินแบบเรียลไทม์ จะคล้ายคลึงกับยอด Balance แต่จะแตคต่างที่ยอดเงินนั้นจะมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาตาม ยอดออเดอร์ที่เป็นบวก/ลบจะเปลี่ยนแปลงตามออเดอร์ที่ค้างอยู่นั้นเอง เชน Balance ของคุณอยู่ที่ 1,000$ แต่คุณมีออเดอร์ที่ ค้างอยู่และยังไม่ได้ปิด +300$ Equityของคุณจะเป็นยอด 1,300$ นั้นเองครับ ดังนั้นถ้คุณต้องการตรวจสอบยอดเงินของตัวเอง ณ เวลานั้น ก็สามารถดูได้ที่ Equity
swap คือ ดอกบี้ยที่นักลงทุนหรือรดเดอร์จะได้รับหรือ ต้องเสียมื่มีการถือครองสกุลเงินหรือสัญญาที่อ้างอิงกับคู่สกุลเงิน Forex ข้ามคืน โดยจำนวนเงินดังกสาวจะยิ่งเพิ่มมากขึ้นเมื่อถือครองสัญญา ข้ามไปหลาย ๆ วัน หรือเป็นเดือน โดยดอกบี้ยนั้น เราจะได้รับจากโบรกเกอร์ที่เราใช้งานอยู่ โบรกกร์แต่ละเจ้าจะบวกค่า swap ไม่เท่กัน บางทีก็แพงกว่าปกติ ค่า Sผap จะถูกคิดก็ต่อเมื่อมีการถือครองสัญญา “ข้ามวัน” ยกตัวอย่างถือสัญญข้ามเวลาที่ป็นเวลาปิดของแต่ละวัน ซึ่งโดยทั่วไป จะตรงกับเวลา 0.00 น. ตามเวลาประศไทย ทั้งนี้ ศ swap จขึ้นยู่กับแต่ละคู่เงินที่เราซื้อขาย โดยจะแปรผันตามอัตราดอกเบี้ย, ผลตอบแทนพันธบัตร ของแต่ละสกุลเงินด้วยครับ
Leverage คือเรื่องมือช่วยเพิ่มความสามารถในการลงทุนะ เงินหลักประกันที่ต้องวาง : มูลค่สินทรัพย์ ชน 1:500 1:1000 ก็เช่นเดียวกัน เราสามารถวางเงินหลักประกันเพียง 1 USD ก็สามารถ ถือครองสถานะขนาด 1,000USD ได้ ดังนั้น ถ้าเรามีเงินทุน 1,000 USD ก็จะเทียบเท่าหารดขนาดสัญญาได้สูงสุด 1,000 x 500 = 1,000,000 USD จึงทำให้สามารถซื้อสินทรัย์ในปริมาณที่สูงขึ้นได้ หรือซื้อได้มากกว่าจำนวนเงินที่มีอยู่จริง ซึ่งแต่ละโบรกเกอร์ที่เปิดบัญชีนั้น จะให้เลือกได้ว่ต้องการใช้ Leverage ขนาดเท่าไหร่ และ Leverage ไม่ได้ทำให้ คุณเป็นหนี้ เพราะคุณไม่สามารถที่จะขาดทุน ได้เกินกว่าจำนวนเงิน Balance ที่มีอยู่ในพอร์ต Leverage เป็นเพียงต้ งตัวช่วย ให้คุณสามารถส่งคำซื้อในปริมาณที่สูงขึ้น เท่านั้น
เงินทุน 1,000$, Leverage 1:100Lot สูงสุดที่เปิดได้ = 1.00Lot (100,000 Unit)
เงินทุน 1,000$, Leverage 1:200Lot สูงสุดที่เปิดได้ = 2.00Lot (200,000 Unit)
เงินทุน 1,000$, Leverage 1:500 Lot สูงสุดที่เปิดได้ = 5.00Lot (500,000 Unit)
เงินทุน 1,000$, Leverage 1:1000 >Lot สูงสุดที่เปิดได้ = 10.00Lot (1,000,000 Unit)
Margin คือ กำไรขั้นต้นที่ได้มาจากส่วนางของราคขายกับราคซื้อของหุ้น โดยที่ยังไม่ใด้หักค่าใช้จ่ยอื่นออกไป ซึ่งมาร์จิ้นจะมีหน่วยเป็นเปอร์เซ็ต์ เรียกง่ายๆ ว่า margin เป็นเงินทุนที่อยู่ในบัญชี เงินหลักประกัน ที่ถูหักไว้มื่อคุณเปิด ออเตอร์ซื้อ-ขาย และจะคืนให้เมื่อปิด ออเดอร์ ในส่วนของ margin จะเกี่ยวข้องกันกับ คำ Leverage ที่ใช้ เพื่อให้เข้าใจง่ายขึ้น ยกตัวอย่างต่อไปนี้ Leverage 1:1 ถ้าต้องการเปิดออเดอร์ 1 Lot เราต้องใช้เงิน 100,000 USD เป็นเงินหลักประกัน (Margin) Margin = 100,000 USD แต่ถ้าใช้ Leverage ที่ 1:1000 จะทำให้ Margin จะลดลง 1000 เท่า จากที่ต้องวางเงินหลักประกัน 100,000 USD ก็จะเหลือเพียง 100 USD เท่านั้น Margin = 100 USD
Margincall คือ ออเดอร์ที่คุณซื้อ-ขาย ไว้นั้นผลรวมทั้งหมดลากลบจนทำให้ใกสัที่จะล้างพอร์ต โบรกเกอร์จ:ทำการปิดออเดอร์ของคุณทั้งหมดอัตนมัติไม่ว่าจะมีที่ ออเดอร์ที่มีกำไรอยู่ด้วยก็ตาม แต่ถ้าผลรวมมันออกมา ใกล้ Margincal จะโบรกเกอร์ของคุณปิดทันที ยกตัวอย่าง คุณลงทุนไป 1,000$ แต่ผลรวมออเดอร์ทั้งห่มดลบถึง900$ และถ้ายังติดลมเพิ่มขึ้นไปอีก โบรกเกอร์จะคัดออเดอร์ของคุณออกทั้งหมดหรือปิดออเดอร์นั้นเองครับ เรียคชายๆว่าล้างพอร์ตนั้นเอง แต่กว่าที่เราจะล้างพอร์ตนั้นเราก็จะมีเวลาฝากเงินเข้าไปเพื่อเพิ่มระดับMargin เพื่อทนลากเพื่อรอจุดกลับตัวของราคาต่อไป ทั้งนี้นั้นนั้นก็ขึ้นอยู่กับเงินทุนของคุณว่าพร้อมด้วยหรือไ
หลายๆ ครั้งถ้เราสังกตคงจะมองเห็น เจ้าตัวแห่งเทียน สีเขียวบ้าง แดงบ้าง เป็นส่วนประกอบของกราพราคา ที่วิ่งขึ้นๆลงฯ หลายท่นคงจะเกิดความสงสัยว่า แห่งเทียนมีวิธีการดูยังไง และใช้งานยังไงรวมถึงแห่งเทียน 1 แท่งบอกอะไรแก่เราบ้าง วันนี้ ForexBangkok จะพาไปคลายข้อสงสัยกัน
ㆍ ราคาเปิด (Open Price) เป็นราคาซื้อขายแรกที่เกิดขึ้นตั้งแต่เปิดตลาด
ㆍ ราคาสูงสุด (High Price) การเคลื่อนไหวของราคาหุ้น ณ ระดับราคาสูงสุดในวันทำการ
ㆍ ราคาต่ำสุด (Lov Price) การเคลื่อนไหวของราคาหุ้น ณ ระดับราคาต่ำสุดในวันทำการ
ㆍ ราคาปิด (Close Price) เป็นราคาสุดท้ายที่เกิดขึ้นจากการซื้อขายสิ้นสุดของวัน
*สรุปแท่งเทียนสีเขียว จะเป็นแห่งเทียนขาขึ้น โดยดูจากราคาปิดที่อยู่สูงกว่าราคาเปิด และแห่งเทียนสีแดงจะเป็นแห่งเทียนขาลง โดยดูจากราคาปิดที่อยู่ต่ำกว่าราคาเปิด*
Hammer แห่งเทียนที่รูปร่างลักษณะคล้ายกับค้อน เกิดขึ้นในตลาดขาลงทำให้มีแนวโน้มโอกาสกลับตัว เป็นขาขึ้น
inverted hammer แห่งเทียนที่มีรูปร่างเป็นค้อนคว่ำหัวลง ปงบอกถึงโอกาสที่แรงซื้อกลับเข้ามา มีแนวโน้มกลับตัว จากขาลงเป็นขาขึ้น
Hanging Man แห่งเทียนที่รูปร่งลักษณะคล้ายกับคนแขวนคอเกิดขึ้นในตลาดขาขึ้น และหากแก่งเทียนแห่งต่อไปมีราคาที่ต่ำกว่าHanging Man ก็จะเป็นจุดกลับตัวในขาลง
Bullish Engulfing ประกอบด้วยแห่งเทียนสองแก่ง โดยแห่งสีแดงถูกกลืนกินโดยแห่งสีเขียว ปงบอกถึง แนวโน้มขาขึ้น
Bearllish Engulfing ประกอบด้วยแห่งเทียนสองแก่ง โดยแห่งสีเขียวถูกกลืนกินโดยแห่งสีแดง ปงบอกถึงแนวโน้มขาลง
เทรนไลน์ใช้ประกอบการตัดสินใจในการเข้าทำกำไร โดยเรนไลน์จะทำการวิ่งตามแนต่ำสุดและสูงสุดของกราฟแห่งเทียน เพื่อใช้ประกอบในหาแนวโน้มราคาที่จะเกิดในอนาคต ว่าราคากำลังจะไปในทิศทางไหน
ยกตัวอย่างเช่น
เทรนขาขึ้น กราฟมีทิศทางเป็นขาขึ้น จากการปรับฐานให้ยกสูงขึ้น
เทรนขาลง กราฟมีทิศทางเป็นขาลงจากการปรับตัวลงของราคา
Side Way กราพจะมีทิศทางวิ่งไป ขนานกับแนวนอน หรือเรียกได้ว่าเป็นจุดพักตัว
แนวรับ คือ ระดับราคาที่ต่ำกว่าราคาในปัจจุบัน ที่คาดการณ์ว่าจะมีความต้องการซื้อเข้ามาอย่างมากหรือมีคนสนใจซื้อเป็นจำนวนมาก ถ้าความต้องการซื้อมีเข้ามาที่ระดับราคาที่เป็นแนวรับจำนวนมากพอ ก็จะสามารถหยุดไม่ให้ราคาปรับตัวลดต่ำลง ไปกว่าระดับราคาแนรับ และทำให้ราคาที่กำลังปรับตัวลดลงเกิดการกลับตัวจากขาลงเป็นขาขึ้น โดยการหาแนวรับนิยมหาตอนที่ราคากำลังปรับตัวลดลง
แนวต้าน คือ ระดับราคาที่สูงกว่าราคาปัจจุบัน ที่คาดการณ์ว่จะมีความต้องการขายเข้ามาอย่างมาก หรือมีคนสนใจขายเป็นจำนวนมาก ถ้าความต้องการขายมีเข้ามาจำนวนมากพอจะสามารถหยุดไม่ให้ราคาเพิ่มขึ้นไปมากกว่าระดับราคาที่เป็นแนวต้าน และทำให้ราคาที่กำลังปรับตัวสูงขึ้นกลับตัวจากขาขึ้นเป็นขาลง โดยการหาแนวต้านนิยมหาตอนที่ราคากลับปรับตัวสูงขึ้นนั้นเอง
IB หรือ Introducing Broker คือ แปลความหมายตรงตัวก็คือ ผู้แนะนำโบรกเกอร์ ที่ได้ตกลงเป็นพันธมิตรกับโบรกเกอร์ โดยมีหน้าที่คล้ายกันกับ Affiliate Programs ทั่วไปโดยBสามารถถ่ายทอดความรู้พื้นฐาน ไปจนถึงเาคนิคการทำกำไรใน ตลาด Forex ได้อย่างถูกต้อง แล้วแนะนำให้เปิดบัญชีโบรกเกอร์ฝานลิงค์ของ IB เมื่อลูกค้าที่ปิดบัญชีโบรกเกอร์ฝ่านลิงค์แนะนำ มีการฝากเงินเข้า และมีการนทรด Forex เกิดขึ้น ผู้แนะนำจะได้รับค่ตอบแทน หรือค่า commission ตามเงื่อนไขของแต่ละ โบรกเกอร์กำหนดขึ้น
1B จะมีรายได้ก็ต่อเมื่อมีนักลงทุนเข้ามาสมัครกับตนและทำการเทรด ทุกครั้งที่นักลงทุน ทำการเทรดจะมีค่า Spread(ค่ธรรมเนียมในการเารด) เกิดขึ้น ไม่ว่านักลงทุนจะเทรด โดยตรงกับโบรกเกอร์หรือเทรดกับIB ก็ย่อมต้องจ่ายค่า Spread (ค่าธรรมเนียมในการเทรด) ทุกครั้ง ทางโบรกเกอร์ก็จะมีการแปงจ่ายค่า Commissionsให้แก่ IB โดยคิด มาจากว่า Spread ที่เกิดขึ้นจากการทรดของนักลงทุนที่Bชักชวนมา ตามเงื่อนไขข้อตกลง ที่ได้กำหนดไว้
ยกตัวอย่างให้เข้าใจง่ายขึ้น เช่น คุณ Lucky ได้ทำการไปซื้อแฟรนไซส์ 7-Eleven มาเปิดสาขา ใกล้บ้านตนโดยทุกครั้งที่มีลูกค้าเข้าร้านมาซื้อสินค้าในสาขาที่ตนดูแล
คุณ Lucky จึงจะมีผลกำไรที่เกิดขึ้น ยิ่งคุณ Lucky มีลูกค้าเข้าสาขาของตนมากเท่าไหร่ก็ยิ่งมีรายได้มากขึ้นเท่านั้น
Bad IB VS Good IB แบบไหนรวยกว่ากัน!?
ต้องขอบอกตามตรงว่ ทุกวงการยอมมีผู้ไม่หวังดี มิจฉาชีพ ที่จ้องจะฉกฉวย หลอกลวงเหยื่อ ไม่เว้นแม้แต่ในวงการForex ที่ออกข่าวมาเป็นระยะ แต่ไม่ใช่ทั้งหมดที่จะเป็นเช่นนั้น ยังมีเBรวมถึงโบรกเกอร์อีกมากที่ทำอย่างถูกต้อง และจริงใจกับนักลงทุน ต้องกล่าวก่อนเลยว่าหากทำอาชีพใดก็ตามที่ทำด้วยความสุจริต ยอมเป็นน้ำซึมปทรายที่จะสร้างผลผลิตอันหอมหวานออกมาไม่รู้จักจบจักสิ้น แตกต่างกับผู้ที่หวังรวยทางลัดกระทำแบบไม่สุจริต ย่อมอยู่หากิน ได้ไม่นาน แม้จะมีรายได้ที่มาก(จากการหลอกลวงก็ไม่สามารถทำให้มีความสุขอย่างแท้จริงได้ สุดท้ายก็หนีไม่พ้นคุกชักราย ตามที่เห็นในข่าวมากมาย
เปิดบัญชีกับ IB คุณคือคนพิเศษ
ได้รับการSนpportจาก เBโดยตรงทั้งทางด้านการให้ความรู้ในการรด มีการจัดคลาสสอนForex ตั้งแต่พื้นฐานไปจนถึงเทคนิคระดับสูง ทั้งนี้นักลงทุนควรเลือกIB ที่มีจรรยาบรรณ แนะนำการลงทุนอย่างถูกต้องสร้างความรู้และความเข้าใจ แก่ผู้ลงทุน ช่วยเหลือผู้ที่มาสมัคร ตอบคำถามแนะนำแนวทางการใช้งานแพลตฟอร์มในการารดได้ ได้รับส่วนลดPromotion ต่างๆ โดยจะขึ้นอยู่กับโบรเกอร์นั้นๆรวมถึงIB ด้วยว่าจะมอบPromotionใดให้แค่นักลงทุน โดยส่วนใหญ่จะเป็น ของสมนาคุณต่างๆ อาทิเช่น เสื้อกิจกรรม รถยนต์ บ้าน เป็นต้น กิจกรรมที่โบรกเกอร์จัดร่วมกันกับ B
หรือจะเป็นในส่วนของ การคืนรีเบต ส่วนลดลด commissionต่างๆ
IB จำเป็นต้องเทรดเก่งเสมอไปไหม??
IB ไม่จำเป็นต้องเทรดเก่งอย่างสุดโต่งเสมอไป แต่ต้องเป็นผู้ที่มีความรู้ความเข้าใจอย่างถ่องแท้ ในขณะเดียวกันเBจำเป็นที่จะต้องมีทักษะทางด้านการสื่อสารที่ทำให้นักลงทุนเกิดความเข้าใจและแนะนำการลงทุนที่ถูกต้องสร้างความเข้าใจ พื้นฐานในการบริหารเงินทุนให้มีประสิทธิภาพสูงสุดแก่นักลงทุนด้ นกจากนี้ต้องคอยช่วยเหลือ ตอบคำถามที่นักลงทุนสงสัยได้ ทั้งในส่วนของระบบการทรดรวมไปจนถึงข้อมูลของโบรกเกอร์ จึงจะเรียกได้ว่าเป็นเBที่มีประสิทธิภาพ
แล้วรายได้ IB มากแค่ไหน!?
หากเปรียบเทียบอาชีพของBกับอาชีพบนโลกใบนี้คงเปรียบได้กับอาชีพของse ที่ต้องมีการทำยอดที่สูง ยิ่งทำยอดได้เยอะก็จะได้รับค่า Commissions ที่สูงเช่นเดียวกัน โดยถ้าให้คิดรายได้เป็นเดือนก็จะมีเริ่มต้นกันที่หลักพันไปจนถึง หลักล้านบาทต่อเดือนกันเลยที่เดียว ซึ่งถือว่าสูงมาก แต่ต้องตามมาด้วยความรับผิดชอบที่สูงช่นกัน และทักษะในหลายๆด้าน เช่น ทักษะทางด้านการรด ทักษะทางด้านการสื่อสาร ทักษะด้านการวางแผนจัดการเงินทุนโดยสามารถ ออกแบบให้เหมาะสมแก่นักลงทุนแต่ละท่านได้
