แพลตฟอรม์ที่ช่วยในการเทรดMT4/MT5 โลกแห่งการเทรดจะง่ายขึ้น

รู้จักที่มาของเครื่องมือที่เทรดเดอร์ใช้กันทั่วโลก

MT4 หรือ MetaTrader 4 และ MT5 หรือ MetaTrader5 คือ ซอฟแวร์สำหรับนารดเป็นแพลตฟอร์มชั้นนำระดับโลกที่ใช้ในการซื้อขายในตลาดการเงินของเทรดเดอร์ทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็น คู่สกุลเงิน Forex, กองทุน ETF, หุ้น ,สกุลเงินดิจิตอล ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดสำหรับนักลงทุนรายอยใปัจจุบัน ถือป็นแพลตฟอร์มมาตรฐานในการทรดออนไลน์ ให้ประสบการณ์การซื้ขายที่ดีเยี่ยมโดยมีเพียงแค่สมาร์ทโฟนก็สามารถทำกำไรได้ทุกที่ ตามต้องการ โดยผู้ผลิตก็คือบริษัท MetaQuotes

รู้จักที่มาของเครื่องมือที่เทรดเดอร์ใช้กันทั่วโลก

1. กดเข้าไปที่ App store

2.พิมพ์ “Metatrader4″หรือ”Metatrader5” ที่ช่องค้นหา

3. หากต้องการดาวน์โหลด “Metatrader4”

4. หากต้องการดาวน์โหลด “Metatrader5”

รู้จักที่มาของเครื่องมือที่เทรดเดอร์ใช้กันทั่วโลก

1. กดเข้าสู่แอปพลิเคชัน Metatrader4

2. ไปที่การตั้งค่า

3. กดที่ *บัญชีใหม่”

4. กดไปที่ “ลงชื่อเข้าใช้บัญชีที่มีอยู่แล้ว”

5. ไปที่ช่องค้นหาแล้วพิมพ์ Server ที่ใช้ในการเทรด

6. ระบุเลขบัญชีเทรด ลงไปที่ “ชื่อการลงชื่อเข้าใช้” และตามด้วย “รหัสผ่าน”

7. หลังจากกรอกข้อมูลครบถ้วนแล้ว กด “ลงชื่อเข้าใช้” เป็นอันเสร็จสิ้น

รู้จักรายละเอียดการแสดงผลบนMT4

1. “ราคา” แสดงผลราคาคู่สกุลเงินต่างๆ รวมถึงค่า Spread ณ ราคาปัจจุบัน

2. “กราพ” แสดงผลราคาในรูปแบบของกราฟ ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน

3. “การซื้อขาย” จะระบุรายละเอียดดังต่อไปนี้ Balance เงินทุนที่มาจาก การฝากเงิน Equity เงินที่ถูกใช้ในการเทรด โดยจะนับรวมกับผลกำไร หรือขาดทุนในขณะนั้น หากมีการปิดออเดอร์ครบทั้งหมด Balanceและ Equity จะเท่ากัน Magin หลักประกัน วงเงินประกันจากการออกออเดอร์ Free Magin หลักประกันที่เหลือวงเงินประกันที่เหลือจากการออกออเดอร์ Magin Level ระดับหลักประกันเปอร์เซ็นความปลอดภัยของพอร์ต ซึ่งถ้าเปอร์เซ็นมากเท่าไหร่ความปลอดภัยของพอร์ตก็มากขึ้นเท่านั้น

4. “ประวัติ” แสดงผลกำไรหรือขาดทุนจากการเทรด เลือกดูได้ตั้งแต่รายวันไปจนถึงรายเดือน

สร้างผลกำไรให้เติบโตแบบก้าวกระโดดด้วยการเป็น Master ยิ่งให้เท่ากับยิ่งได้รับ

ที่มาและความสำคัญของ Master
Master คือ เทรดเดอร์ที่มีประสบการณ์ในตลาดForexสูง มีเทคนิคหรือความถนัดในการเทรดเฉพาะด้านของตนเอง โดยมาเปิดระบบเป็น
มาสเตอร์ ให้นักลงทุนสามารถเข้ามาเชื่อมสัญญาณคัดอกได้ และมาสเตอร์ยังเป็นกำลังหลักในการขับเคลื่อนตลาดForex ให้เกิดรูปแบบ
การลงทุนแบบใหม่ ที่สร้างผลกำไรให้แก่นักลงทุนป็นกอบเป็นกำนั้นก็คือระบบ “Copytrace”

Master VS Trader
หากว่กันตามตรงแล้ว มาสเตอร์ก็คือเรดเดอร์ คนนึงที่ใช้เวลาส่วนใหญ่ในการมารดเพื่อทำกำไรจากตลาด Forex โดยจะมีกำไรมากหรือน้อย
ก็สุดแล้วแต่ ทักษะ ประสบการณ์ฝีมือที่ได้สั่งสมมา แต่เมื่อใดก็ตามที่เทรดเดอร์คนนึงที่มิประสบการณ์ มั่นใจในฝีมือการเทรดของตน ได้ก้าวข้าม
มาเปิดสัญญาณให้นักลงทุนทำการ Copytrade เมื่อนั้น รดเดอร์จะผันตัวกลายมาเป็นมาสเตอร์ ที่มีความรับผิดชอบสูงรวมถึงวินัยในการเทรด
ที่ต้องสร้างผลกำไร และผลงานให้ออกมาเป็นที่ประจักษ์ชัด เพราะมาสเตอร์จะต้องแบกรับแรงกดดัน มากกว่าเดิม ไม่ใช่เพียงพอร์ตของตน
แต่ยังรวมถึงพอร์ตจากนักลงทุนหลากหลายที่เข้ามาเชื่อมสัญญาณารดกับตน ยิ่งมาสเตอร์มีความรับผิดชอบที่สูงขึ้น เท่ากับว่าผลตอบแทน
จากศาธรรมเนียมการคัดลอกจะยิ่งสูงตามมากขึ้นเท่านั้น จึงสรุปได้ว่า มาสเตอร์สามารถสร้างกำไรได้มากขึ้นกว่าการเป็นเทรดเดอร์นั้นเอง

สร้างผลกำไรให้เติบโตแบบก้าวกระโดดด้วยการเป็น Master ยิ่งให้เท่ากับยิ่งได้รับ

ในปัจจุบันแน่นอนว่า มาสเตอร์มีให้เลือกเยอะมากมายจากทั่วทุกมุมโลก มาสเตอร์จะมีเคนิคสไตล์คารเทรดที่แตกต่างคันไปโดยส่งผลถึงผลคำไร้ที่ตามมา บ้างนารดได้ผลตอบแทนสูง บ้างเารดได้ผลตอนแทนต่ำ ซึ่งแน่นอนความเสี่ยงก็ย่อมไม่เท่ากัน ดังนั้นก่อนตัดสินใจลงทุนการเลือกมาสเตอร์ถือเป็นอีคหนึ่งสิ่งที่สำคัญมาก โดยนักลงทุนต้องทราบถึงสไตลัการเทรด ความเสี่ยงจากการลงกุน ไม่ใช่ดูเพียงแค่ผลกำไรที่สูงเท่านั้น

1. ระบุผลกำไรที่ทำมาทั้งหมด
2. ระดับของความเสี่ยง ไม่ควรเกิน 6
3. จำนวนเทรดเดอร์ที่คัดลอกทั้งหมด
4. จำนวนเงินทั้งหมดที่กำลังคัดลอกมาสเตอร์
5. ชาร์ตแสดงผลกำไรของมาสเตอร์ ที่มีการทำกำไรอย่างต่อเนื่อง
6. ประวัติการทรดที่ผ่านมา บอกถึงปริมาณการเารด รวมถึงการขาดทุนและการทำกำไร

เริ่มต้นตั้งค่าเพื่อคัดลอกมาสเตอร์

1. กำไร ณ ปัจจุบันของมาสเตอร์

2. จำนวนเงินทุนที่จะใช้คัดลอก ไม่ควรห่างจากมาสเตอร์เกิน 1000%

3. หากต้องการ คัดลอกคำสั่งที่เปิดอยู่ ให้กดเครื่องหมาย “เช็คถูก” แต่จะได้จุดเข้า ราคา ณ ปัจจุบัน

4. ประเภทการคัดลอกมีทั้งสิ้น 4 ประเภท
4.1 อัตราส่วนเงินทุนของฉัน คือการคัดลอกในปริมาณเงินทุนของคุณ เช่นมาสเตอร์ทุน 100S ทำกำไรได้ 20$ นักลงทุนคัดลอกด้วยทุน 50$ จะทำกำไรได้10$นั้นเอง
4.2 คัดลอกขนาดเต็ม 1 ต่อ 1 คือการคัดลอกมาสเตอร์แบบเต็มจำนวนนั้น ก็คือเงินทุนเท่ากัน จะทำกำไรเท่ากับมาสเตอร์
4.3 ขนาดคงที่สำหรับการเทรดแต่ละครั้ง คือการคัดลอกมาสเตอร์ ตามปริมาณ ในการเทรดที่ได้ตั้งไว้เช่นมาสเตอร์เทรด1tot กำหนดปริมาณเทรดไว้ที่ 0.5 Lot บัญชีคัดลอกก็จะทำการคัดลอกเพียง 0.5lot เท่านั้น
4.4 % ของปริมาณการเทรดแต่ละครั้ง คือการคัดลอกมาสเตอร์ ตามปริมาณ % ในการเกรดที่ได้ตั้งไว้เช่น นักลงทุนตั้งไว้ที่50% มาสเตอร์ออกออเดอร์510tนักลงทุน จะออกเพียงครึ่งเดียวเท่านั้นที่ 2.5lot

Forex เบื้องต้นและพื้นฐานที่เทรดเดอร์ต้องรู้พื้นฐานคือรากแห่งความั่งคั่ง

กราฟแท่งเทียน คืออะไร ทำไมถึงเป็นที่นิยม

หลายๆ ครั้งถ้เราสังกตคงจะมองเห็น เจ้าตัวแห่งเทียน สีเขียวบ้าง แดงบ้าง เป็นส่วนประกอบของกราพราคา ที่วิ่งขึ้นๆลงฯ หลายท่นคงจะเกิดความสงสัยว่า แห่งเทียนมีวิธีการดูยังไง และใช้งานยังไงรวมถึงแห่งเทียน 1 แท่งบอกอะไรแก่เราบ้าง วันนี้ ForexBangkok จะพาไปคลายข้อสงสัยกัน

แห่งเทียน มีส่วนประกอบอะไรบ้าง

ㆍ ราคาเปิด (Open Price) เป็นราคาซื้อขายแรกที่เกิดขึ้นตั้งแต่เปิดตลาด
ㆍ ราคาสูงสุด (High Price) การเคลื่อนไหวของราคาหุ้น ณ ระดับราคาสูงสุดในวันทำการ
ㆍ ราคาต่ำสุด (Lov Price) การเคลื่อนไหวของราคาหุ้น ณ ระดับราคาต่ำสุดในวันทำการ
ㆍ ราคาปิด (Close Price) เป็นราคาสุดท้ายที่เกิดขึ้นจากการซื้อขายสิ้นสุดของวัน
*สรุปแท่งเทียนสีเขียว จะเป็นแห่งเทียนขาขึ้น โดยดูจากราคาปิดที่อยู่สูงกว่าราคาเปิด และแห่งเทียนสีแดงจะเป็นแห่งเทียนขาลง โดยดูจากราคาปิดที่อยู่ต่ำกว่าราคาเปิด*

รูปแบบแท่งเทียน ที่ควรรู้มีอะไรบ้าง

Hammer แห่งเทียนที่รูปร่างลักษณะคล้ายกับค้อน เกิดขึ้นในตลาดขาลงทำให้มีแนวโน้มโอกาสกลับตัว เป็นขาขึ้น

inverted hammer แห่งเทียนที่มีรูปร่างเป็นค้อนคว่ำหัวลง ปงบอกถึงโอกาสที่แรงซื้อกลับเข้ามา มีแนวโน้มกลับตัว จากขาลงเป็นขาขึ้น

Hanging Man แห่งเทียนที่รูปร่งลักษณะคล้ายกับคนแขวนคอเกิดขึ้นในตลาดขาขึ้น และหากแก่งเทียนแห่งต่อไปมีราคาที่ต่ำกว่าHanging Man ก็จะเป็นจุดกลับตัวในขาลง

Bullish Engulfing ประกอบด้วยแห่งเทียนสองแก่ง โดยแห่งสีแดงถูกกลืนกินโดยแห่งสีเขียว ปงบอกถึง แนวโน้มขาขึ้น

Bearllish Engulfing ประกอบด้วยแห่งเทียนสองแก่ง โดยแห่งสีเขียวถูกกลืนกินโดยแห่งสีแดง ปงบอกถึงแนวโน้มขาลง

รูปแบบแท่งเทียน ที่ควรรู้มีอะไรบ้าง

เทรนไลน์ใช้ประกอบการตัดสินใจในการเข้าทำกำไร โดยเรนไลน์จะทำการวิ่งตามแนต่ำสุดและสูงสุดของกราฟแห่งเทียน เพื่อใช้ประกอบในหาแนวโน้มราคาที่จะเกิดในอนาคต ว่าราคากำลังจะไปในทิศทางไหน

ยกตัวอย่างเช่น

เทรนขาขึ้น กราฟมีทิศทางเป็นขาขึ้น จากการปรับฐานให้ยกสูงขึ้น

เทรนขาลง กราฟมีทิศทางเป็นขาลงจากการปรับตัวลงของราคา

Side Way กราพจะมีทิศทางวิ่งไป ขนานกับแนวนอน หรือเรียกได้ว่าเป็นจุดพักตัว

แนวรับ-แนวต้าน คืออะไร ทำไมถึงสำคัญ

แนวรับ คือ ระดับราคาที่ต่ำกว่าราคาในปัจจุบัน ที่คาดการณ์ว่าจะมีความต้องการซื้อเข้ามาอย่างมากหรือมีคนสนใจซื้อเป็นจำนวนมาก ถ้าความต้องการซื้อมีเข้ามาที่ระดับราคาที่เป็นแนวรับจำนวนมากพอ ก็จะสามารถหยุดไม่ให้ราคาปรับตัวลดต่ำลง ไปกว่าระดับราคาแนรับ และทำให้ราคาที่กำลังปรับตัวลดลงเกิดการกลับตัวจากขาลงเป็นขาขึ้น โดยการหาแนวรับนิยมหาตอนที่ราคากำลังปรับตัวลดลง

แนวต้าน คือ ระดับราคาที่สูงกว่าราคาปัจจุบัน ที่คาดการณ์ว่จะมีความต้องการขายเข้ามาอย่างมาก หรือมีคนสนใจขายเป็นจำนวนมาก ถ้าความต้องการขายมีเข้ามาจำนวนมากพอจะสามารถหยุดไม่ให้ราคาเพิ่มขึ้นไปมากกว่าระดับราคาที่เป็นแนวต้าน และทำให้ราคาที่กำลังปรับตัวสูงขึ้นกลับตัวจากขาขึ้นเป็นขาลง โดยการหาแนวต้านนิยมหาตอนที่ราคากลับปรับตัวสูงขึ้นนั้นเอง

สร้างรายได้ด้วยการส่งต่อความรู้

ต่อยอดความเข้าใจถ่ายทอดออกมาเป็นกำไร

รู้จักกับอาชีพผู้แนะนำ (IB Broker)

IB หรือ Introducing Broker คือ แปลความหมายตรงตัวก็คือ ผู้แนะนำโบรกเกอร์ ที่ได้ตกลงเป็นพันธมิตรกับโบรกเกอร์ โดยมีหน้าที่คล้ายกันกับ Affiliate Programs ทั่วไปโดยBสามารถถ่ายทอดความรู้พื้นฐาน ไปจนถึงเาคนิคการทำกำไรใน ตลาด Forex ได้อย่างถูกต้อง แล้วแนะนำให้เปิดบัญชีโบรกเกอร์ฝานลิงค์ของ IB เมื่อลูกค้าที่ปิดบัญชีโบรกเกอร์ฝ่านลิงค์แนะนำ มีการฝากเงินเข้า และมีการนทรด Forex เกิดขึ้น ผู้แนะนำจะได้รับค่ตอบแทน หรือค่า commission ตามเงื่อนไขของแต่ละ โบรกเกอร์กำหนดขึ้น

แล้วรายได้มาจากไหน...?

1B จะมีรายได้ก็ต่อเมื่อมีนักลงทุนเข้ามาสมัครกับตนและทำการเทรด ทุกครั้งที่นักลงทุน ทำการเทรดจะมีค่า Spread(ค่ธรรมเนียมในการเารด) เกิดขึ้น ไม่ว่านักลงทุนจะเทรด โดยตรงกับโบรกเกอร์หรือเทรดกับIB ก็ย่อมต้องจ่ายค่า Spread (ค่าธรรมเนียมในการเทรด) ทุกครั้ง ทางโบรกเกอร์ก็จะมีการแปงจ่ายค่า Commissionsให้แก่ IB โดยคิด มาจากว่า Spread ที่เกิดขึ้นจากการทรดของนักลงทุนที่Bชักชวนมา ตามเงื่อนไขข้อตกลง ที่ได้กำหนดไว้

ยกตัวอย่างให้เข้าใจง่ายขึ้น เช่น คุณ Lucky ได้ทำการไปซื้อแฟรนไซส์ 7-Eleven มาเปิดสาขา ใกล้บ้านตนโดยทุกครั้งที่มีลูกค้าเข้าร้านมาซื้อสินค้าในสาขาที่ตนดูแล
คุณ Lucky จึงจะมีผลกำไรที่เกิดขึ้น ยิ่งคุณ Lucky มีลูกค้าเข้าสาขาของตนมากเท่าไหร่ก็ยิ่งมีรายได้มากขึ้นเท่านั้น

Bad IB VS Good IB แบบไหนรวยกว่ากัน!?
ต้องขอบอกตามตรงว่ ทุกวงการยอมมีผู้ไม่หวังดี มิจฉาชีพ ที่จ้องจะฉกฉวย หลอกลวงเหยื่อ ไม่เว้นแม้แต่ในวงการForex ที่ออกข่าวมาเป็นระยะ แต่ไม่ใช่ทั้งหมดที่จะเป็นเช่นนั้น ยังมีเBรวมถึงโบรกเกอร์อีกมากที่ทำอย่างถูกต้อง และจริงใจกับนักลงทุน ต้องกล่าวก่อนเลยว่าหากทำอาชีพใดก็ตามที่ทำด้วยความสุจริต ยอมเป็นน้ำซึมปทรายที่จะสร้างผลผลิตอันหอมหวานออกมาไม่รู้จักจบจักสิ้น แตกต่างกับผู้ที่หวังรวยทางลัดกระทำแบบไม่สุจริต ย่อมอยู่หากิน ได้ไม่นาน แม้จะมีรายได้ที่มาก(จากการหลอกลวงก็ไม่สามารถทำให้มีความสุขอย่างแท้จริงได้ สุดท้ายก็หนีไม่พ้นคุกชักราย ตามที่เห็นในข่าวมากมาย

เปิดบัญชีกับ IB คุณคือคนพิเศษ
ได้รับการSนpportจาก เBโดยตรงทั้งทางด้านการให้ความรู้ในการรด มีการจัดคลาสสอนForex ตั้งแต่พื้นฐานไปจนถึงเทคนิคระดับสูง ทั้งนี้นักลงทุนควรเลือกIB ที่มีจรรยาบรรณ แนะนำการลงทุนอย่างถูกต้องสร้างความรู้และความเข้าใจ แก่ผู้ลงทุน ช่วยเหลือผู้ที่มาสมัคร ตอบคำถามแนะนำแนวทางการใช้งานแพลตฟอร์มในการารดได้ ได้รับส่วนลดPromotion ต่างๆ โดยจะขึ้นอยู่กับโบรเกอร์นั้นๆรวมถึงIB ด้วยว่าจะมอบPromotionใดให้แค่นักลงทุน โดยส่วนใหญ่จะเป็น ของสมนาคุณต่างๆ อาทิเช่น เสื้อกิจกรรม รถยนต์ บ้าน เป็นต้น กิจกรรมที่โบรกเกอร์จัดร่วมกันกับ B
หรือจะเป็นในส่วนของ การคืนรีเบต ส่วนลดลด commissionต่างๆ

IB จำเป็นต้องเทรดเก่งเสมอไปไหม??
IB ไม่จำเป็นต้องเทรดเก่งอย่างสุดโต่งเสมอไป แต่ต้องเป็นผู้ที่มีความรู้ความเข้าใจอย่างถ่องแท้ ในขณะเดียวกันเBจำเป็นที่จะต้องมีทักษะทางด้านการสื่อสารที่ทำให้นักลงทุนเกิดความเข้าใจและแนะนำการลงทุนที่ถูกต้องสร้างความเข้าใจ พื้นฐานในการบริหารเงินทุนให้มีประสิทธิภาพสูงสุดแก่นักลงทุนด้ นกจากนี้ต้องคอยช่วยเหลือ ตอบคำถามที่นักลงทุนสงสัยได้ ทั้งในส่วนของระบบการทรดรวมไปจนถึงข้อมูลของโบรกเกอร์ จึงจะเรียกได้ว่าเป็นเBที่มีประสิทธิภาพ

แล้วรายได้ IB มากแค่ไหน!?
หากเปรียบเทียบอาชีพของBกับอาชีพบนโลกใบนี้คงเปรียบได้กับอาชีพของse ที่ต้องมีการทำยอดที่สูง ยิ่งทำยอดได้เยอะก็จะได้รับค่า Commissions ที่สูงเช่นเดียวกัน โดยถ้าให้คิดรายได้เป็นเดือนก็จะมีเริ่มต้นกันที่หลักพันไปจนถึง หลักล้านบาทต่อเดือนกันเลยที่เดียว ซึ่งถือว่าสูงมาก แต่ต้องตามมาด้วยความรับผิดชอบที่สูงช่นกัน และทักษะในหลายๆด้าน เช่น ทักษะทางด้านการรด ทักษะทางด้านการสื่อสาร ทักษะด้านการวางแผนจัดการเงินทุนโดยสามารถ ออกแบบให้เหมาะสมแก่นักลงทุนแต่ละท่านได้